ชาวล้านนานิยมรับประทานพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ อาจจะเป็นผักป่า หรือว่าผักข้างรั้ว กินข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก นิยมปรุงอาหารโดยไม่ใส่น้ำตาล มีรสเค็มนำและเผ็ดเล็กน้อย ใช้กะทิปรุงน้อยกว่าภาคกลาง นิยมแกงแบบน้ำขลุกขลิก และน้ำพริกต่างๆก็ค่อนข้างแห้ง เพราะชาวล้านนารับประทานด้วยวิธีปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนเล็กๆแล้วจิ้มลงไปในน้ำแกง
การจัดสำรับอาหาร จัดใส่ขันโตกหรือโก๊วะข้าว ทำมาจากไม้ นิยมใช้ไม้สักในการทำขันโตก ปัจจุบัน มีการนำเอาหวายมาสานเป็นขันโตกด้วย
การจัดสำรับอาหาร จัดใส่ขันโตกหรือโก๊วะข้าว ทำมาจากไม้ นิยมใช้ไม้สักในการทำขันโตก ปัจจุบัน มีการนำเอาหวายมาสานเป็นขันโตกด้วย
ชาวล้านนานิยมรับประทานข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก ซี่งเรียกกันว่า ข้าวนึ่ง รับประทานกับกับข้าว ในการรับประทานอาหาร ต้องใช้มือปั้นข้าวนึ่งก่อน แล้วจิ้มลงไปในแกง หรืออาหารต่างๆ ที่เป็นกับข้าว แล้วจึงรับประทาน สำหรับวิธีการปั้นข้าวเหนียวนั้น แต่ละคนก็จะมีวิธีในการปั้นข้าวแตกต่างกันไปตามความถนัดของแต่ละคน การจิ้มข้าวนึ่งลงไปในแกง จำเป็นต้องทำให้ข้าวนึ่งเป็นก้อนและแน่นก่อน มิฉะนั้นข้าวนึ่งที่จิ้มลงไปจะยุ่ยลงไปในแกง
อาหารที่เป็นสำรับสำหรับการจัดขันโตก ทิ่นิยมกัน เช่น ลาบ แกงอ่อม ไส้อั่ว แคบหมู แกงฮังเล น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง พร้อมผักจิ้ม อาหารหวาน เช่น ข้าวแต๋น ขนมจ็อก
แกงฮังเล
คั่วเห็ดเผาะ(มีเฉพาะฤดูฝน)
น้ำปู(ทำจากปูนาและเครื่องเทศ)
จอผักกาด
ตำขนุน ยำเตา(สาหร่ายน้ำจืดกับเครื่องเทศ)
ห่อนึ่งไก่
แคบหมู(หนังหมูทอด)
ไส้อั้ว
จิ้มส้มหมก(แหนม)
หลู้ (เลือดและเครื่องในวัว,ควายกับเครื่องเทศ)

ลาบ(มีทั้งสุกและดิบ)
ตำขนุน ยำเตา(สาหร่ายน้ำจืดกับเครื่องเทศ)
ส้าจิ้น(เครื่องในสุกกับเครื่องเทศ)
ถั่วเน่าเมอะ(ถั่วเหลืองหมัก ย่าง)
ไข่ป๋อม(ไข่ย่าง) แอ็บปลา(ปลาช่อน,ปลาดุกกับเครื่องเทศย่าง)
ขนมจ๊อก(ขนมเทียน)
ข้าวแต๋น(ข้าวเหนียวทอดราดน้ำอ้อย)


















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น